วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[แปลเพลง] The 1975 - The City






กลับมาที่เพลง The 1975
เพลงดีทุกเพลงจริงๆ


[Verse 1]
Don't call it a fight when you know it's a war
With nothing but your t-shirt on
And go sit on the bed because I know that you want to
You've got pretty eyes, but I know you're wrong

อย่ามาเรียกว่าทะเลาะถ้ารู้อยู่แล้วว่ามันคือสงคราม
คุณไม่ใส่อะไรเลยแม้แต่เสื้อ
ไปนั่งบนเตียงซะ เพราะผมรู้ว่าคุณต้องการอะไร
ซื่อตาใสดีนะแต่ยังไงผมก็รู้ว่าคุณผิด

(คู่รักชายหญิงตื่นขึ้นมาหลังจากมีเซ็กซ์กัน ผู้ชายดันหันไปเห็นว่าผู้หญิงนอนแบบไม่ใส่อะไรเลยก็เกิดโมโหขึ้นมา (คนแปล-อะไรของเอ็งวะ ก็เพิ่งเสร็จกิจ ไม่ใส่ก็ไม่แปลกนี่หว่า -_-*) เถียงกันจนเหนื่อยผู้ชายก็ไล่คู่ตัวเองไปขึ้นเตียงกะจะจัดการอีกสักยก ผู้ชายโมโหมากแต่แฟนตัวเองก็สวยมากแถมร้ายตาใส แต่ผู้ชายมันไม่ยอมแล้วก็เลยทะเลาะกันอีกรอบ)





[Verse 2]

And don't call it a spade if it isn't a spade
And go lie on the floor if you want
The first bit of advice that you gave me
That I liked was they're too strong, too strong
Get in the shower if it all goes wrong

อย่าเรียกมันว่าไพ่โพดำถ้ามันไม่ใช่
ถ้าอยากลงไปดิ้นกับพื้นก็เชิญ
คำที่คุณเคยบอกเมื่อตอนแรก
ก็แบบฉันชอบที่พวกเขาแข็งแรงมากๆ
ไปล้างเนื้อล้างตัวเหอะ ถ้าคิดว่ามันผิดมาก

(“call a spade a spade” คือการใช้คำเปรียบเปรยคำพูดเล็กๆน้อยๆที่ทำให้คุณหงุดหงิดใจ แมตตี้กำลังสื่ถึงตอนที่แฟนบอกว่ารักแต่เขารู้ว่าเธอไม่ได้พูดความจริงและทำให้ทั้งคู่เลิกกันในที่สุด ฝ่ายผู้หญิงก็พยายามหว่านสเน่ห์ใส่แต่ไม่ได้ผล ผู้ชายก็เริ่มรำคาญเลยพูดทำนองว่า “ถ้าทนไม่ไหวมึงก็ไปดิ้นกับพื้นให้ลงแดงตายไปเลย” (คนแปล-ฮาร์ดคอร์แท้พ่อขา) สถานการณ์มันเริ่มแย่เพราะผู้ชายกำลังเมายาอย่างหนัก ฝ่ายผู้หญิงก็พยายามห้าม ยิ่งทำเท่าไหร่ก็ยิ่งแย่ “Get in the shower” ใช้ได้หลายสถานการณ์มาก อย่างเช่นพวกที่เพิ่งพี้ยามาหนักๆก็จะไปอาบน้ำเย็นจัดให้ตาสว่างขึ้น การอาบน้ำยังเป็นการกำจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายด้วย ซึ่งชายหญิงคู่นี้เพิ่งมีความผิดมาก่อนหน้าที่จะมีเซ็กซ์ได้ไปขโมยเงินจากที่หนึ่งมา เลียงลำดับตามนี้ ขโมยเงิน-มีเซ็กซ์-ทะเลาะกันเพราะผญ.ไม่ใส่เสื้อผ้า-เสพยา-ทะเลาะกันอีกรอบ-ไล่ไปอาบน้ำ-มีเซ็กซ์กันในห้องน้ำ)





[Chorus]

Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is
Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is
Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is, city is
Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is

คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ
คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ
คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ
คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ

(“เมือง” คือคำเปรียบเปรยในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ พวกเขานึกถึงการพบกันครั้งแรกซึ่งก็เจอกันในเมืองเหมือนกัน และเมืองใหญ่นี่แหละที่พวกเขาจะหลบหนีความผิดที่ก่อในครั้งนี้ไปได้ แมตตี้กำลังเปรียบตัวเองในท่อนนี้ เขาที่ปราศจากความรัก จมปลักอยู่กับยาเสพติด แอลกอฮอล์ อารมณ์รุนแรง เขาไล่คนรักของตัวเองให้ไปหาความรักใหม่ในเมืองและทิ้งเขาเอาไว้ตรงนี้)





[Verse 3]

Yeah, counting cards was the best job he ever had
Cleaning up
He got good with his 4's and his 2's
Community service was the best job he ever had
Cleaning up
He got sick on the floor and his shoes

นั่งนับเลขบนไพ่นั่นหน้าที่หลักของเขาเลยนะ
4 กับ 2 นั่นคงเป็นเลขที่ดีที่สุดในชีวิตเขาแล้วล่ะ
บริการสังคมคงเป็นงานที่ดีที่สุดของเขาเลยนะ
เขาลงไปนอนกองกับพื้นซะแล้ว

(ในการเล่นไพ่ ถ้าคุณมีไพ่ดีก็ต้องปล่อยแกล้งทำเป็นปล่อยไพ่ไม่ดีออกมาให้อีกคนตายใจก่อน Cleaning up ในที่นี้น่าจะหมายถึงทำยังไงก็ได้ให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูดีที่สุดในสายตาของประชาชน แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยเพราะเขาก็กลับไปติดยากับเหล้าอีกเหมือนเดิม)





[Bridge]

Oh, and she said, "It’s your birthday, are you feeling alright?"
The next one's the MD, you'll be feeling just fine
Your brother is just sat there and you said that you felt snide
You hope that that boy will be alright

โอ้ แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “นี่มันวันเกิดคุณ รู้สึกเป็นไงบ้าง?”
ถ้าได้เจอหมอ คุณจะรู้สึกดีขึ้นนะ
น้องชายคุณนั่งอยู่ตรงนั้นแต่คุณกลับบอกว่ากำลังถูกเยาะเย้ย
คุณกำลังหวังว่าเด็กคนนั้นจะรู้สึกโอเคขึ้น

(มันไม่ใช่วันเกิดที่ดีในนี้แต่ก็ดันมีคนมาถามอีกว่า “เฮ้ วันเกิดปีนี้เป็นไงบ้าง” ก็เลยยิ่งแย่ *ยกตัวอย่างไปถึงเพลง You (คนแปล-จะแปลต่อจากเพลงนี้แหละจ้า)* MD เป็นคำแสลงได้หลายอย่างในเพลงนี้ เช่น ยา หมอ บลา บลา บลา ที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น ตอนแปลขอใช้คำว่าหมอแต่จริงๆแล้วมันหมายถึงยานะ ส่วนคำว่า “Snide” คืออาการเยาะเย้ยหรือถากถาง ทุกคนในครอบครัวรออยู่ในห้องเพื่อจัดงานให้ แต่เพราะเขาเมายาไงเลยนึกว่าครอบครัวกำลังรอถากถางหรือดุด่าเขาอีก)





[Chorus]

Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is
Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is
Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is, city is
Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is

คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ
คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ
คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ
คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ

( “เมือง” คือคำเปรียบเปรยในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ พวกเขานึกถึงการพบกันครั้งแรกซึ่งก็เจอกันในเมืองเหมือนกัน และเมืองใหญ่นี่แหละที่พวกเขาจะหลบหนีความผิดที่ก่อในครั้งนี้ไปได้ แมตตี้กำลังเปรียบตัวเองในท่อนนี้ เขาที่ปราศจากความรัก จมปลักอยู่กับยาเสพติด แอลกอฮอล์ อารมณ์รุนแรง เขาไล่คนรักของตัวเองให้ไปหาความรักใหม่ในเมืองและทิ้งเขาเอาไว้ตรงนี้)





[Bridge]

Oh, and she said, "It’s your birthday, are you feeling alright?"
The next one's the MD, you'll be feeling just fine
Your brother is just sat there and you said that you felt snide
You hope that that boy will be alright

โอ้ แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “นี่มันวันเกิดคุณ รู้สึกเป็นไงบ้าง?”
ถ้าได้เจอหมอ คุณจะรู้สึกดีขึ้นนะ
น้องชายคุณนั่งอยู่ตรงนั้นแต่คุณกลับบอกว่ากำลังถูกเยาะเย้ย
คุณกำลังหวังว่าเด็กคนนั้นจะรู้สึกโอเคขึ้น

(มันไม่ใช่วันเกิดที่ดีในนี้แต่ก็ดันมีคนมาถามอีกว่า “เฮ้ วันเกิดปีนี้เป็นไงบ้าง” ก็เลยยิ่งแย่ *ยกตัวอย่างไปถึงเพลง You (คนแปล-จะแปลต่อจากเพลงนี้แหละจ้า)* MD เป็นคำแสลงได้หลายอย่างในเพลงนี้ เช่น ยา หมอ บลา บลา บลา ที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น ตอนแปลขอใช้คำว่าหมอแต่จริงๆแล้วมันหมายถึงยานะ ส่วนคำว่า “Snide” คืออาการเยาะเย้ยหรือถากถาง ทุกคนในครอบครัวรออยู่ในห้องเพื่อจัดงานให้ แต่เพราะเขาเมายาไงเลยนึกว่าครอบครัวกำลังรอถากถางหรือดุด่าเขาอีก)





[Chorus]

Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is
Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is
Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is, city is
Yeah, you wanna find love?
Then you know where the city is

คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ
คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ
คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?
ถ้างั้นก็ลองไปหาในเมืองสิ
คุณอยากจะค้นหาความรักใช่ไหม?

( “เมือง” คือคำเปรียบเปรยในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ พวกเขานึกถึงการพบกันครั้งแรกซึ่งก็เจอกันในเมืองเหมือนกัน และเมืองใหญ่นี่แหละที่พวกเขาจะหลบหนีความผิดที่ก่อในครั้งนี้ไปได้ แมตตี้กำลังเปรียบตัวเองในท่อนนี้ เขาที่ปราศจากความรัก จมปลักอยู่กับยาเสพติด แอลกอฮอล์ อารมณ์รุนแรง เขาไล่คนรักของตัวเองให้ไปหาความรักใหม่ในเมืองและทิ้งเขาเอาไว้ตรงนี้)







Lyrics Source : The 1975 - The City

 

 

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[แปลเพลง] Gnash – Home (Feat.Johnny Yukon)





เป็นเพลงหนึ่งที่ให้กำลังใจใครหลายคนได้ดีเลยที่เดียว เนื้อความของเพลงก็ประมาณว่า ครอบครัวของ Gnash พ่อ แม่ น้องสาว และตัวเขา ต้องย้ายออกจากบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำของครอบครัวเพราะว่าปัญหาเรื่องเงิน Gnash ก็เลยนึกถึงคำพูดของพ่อ และเดินตามทางที่ตัวเองรักนั่นก็คือการได้ทำเพลง เพื่อหาเงินมาให้ครอบครัวได้สุขสบายและกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง :D




[Pre-Chorus: Johnny Yukon]
 
Doesn't matter where we are
We are never far apart, no
Doesn't matter where we go
When I'm with you I am home
Yeah, I am home


ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะอยู่กันที่ไหน
เพราะเราไม่เคยไกลกันอยู่แล้ว
ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะไปที่ไหนกัน
เพราะเมื่ออยู่กับคุณ ผมก็เหมือนได้อยู่บ้านแล้วล่ะ
ใช่ ผมได้กลับบ้านแล้ว





[Verse 1: Gnash]



I think it was last year on my birthday when you broke the news
Things ain't rollin' how we need them to and we have to move
But I said, "Dad, get those moving boxes out the room"
And cut the cake, I'll get it, I got it, I'll give my all for you
Too many memories and feelings I'm not down to pack
So lately I've been putting all this weight up on my back
I know that's never what you wanted dad, but understand
We can't afford another heart attack to keep the fam intact
It's whatever as long as we stick together
This shit's forever, above us there's nothin' better
Do you remember when you said "Do what you love
And don't give up, it's in your blood"
That's when you taught me that
If all I have is me, then all I need is family
If all I have is home, then all I am is happy
I may not know it all but I know this
Home isn't where you are, it's who you're with and it...

ผมคิดว่าน่าจะเป็นวันเกิดปีที่แล้ว ที่พ่อบอกข่าวร้ายกับผม
ไม่มีอะไรง่ายหรอก มันไม่เป็นแบบที่เราต้องการและตอนนี้เราต้องย้ายออก
ผมพูดว่า “พ่อ เอากล่องเก็บของพวกนั้นออกจากห้องไปเถอะ”
แล้วก็ตัดเค้ก ผมต้องได้ ผมต้องทำได้ ผมจะให้ทุกอย่างกับพ่อ
ความทรงจำ ความรู้สึกมากมาย ผมจะไม่มีวันเก็บมันลงกล่อง
ผมแบกทุกอย่างเอาไว้บนหลัง
ผมรู้ว่าพ่อไม่ต้องการหรอกแต่เข้าใจเถอะนะ
เราทนแบกหัวใจที่แตกสลายของครอบครัวไว้ไม่ได้แล้วนะ
จำได้ไหมคำพูดของพ่อ “ทำสิ่งที่ตัวเองรัก
และอย่ายอมแพ้เพราะมันอยู่ในสายเลือดของเรา”
นั่นคือตอนที่พ่อสอนผม
ทั้งหมดที่ผมมีก็คือตัวเองและสิ่งที่ผมต้องการคือครอบครัว
ทั้งหมดที่ผมมีก็คือบ้าน งั้นตอนนี้ผมก็มีความสุขแล้ว
ผมอาจจะรู้ไม่หมดแต่ผมก็พอจะรู้นะ
เราอาจจะไม่อยู่ที่บ้าน ถ้าคนที่อยู่ไม่ได้ให้ความรู้สึกนั้น





[Pre-Chorus: Johnny Yukon]


Doesn't matter where we are
We are never far apart, no
Doesn't matter where we go
When I'm with you I am home
Yeah, I am home


ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะอยู่กันที่ไหน
เพราะเราไม่เคยไกลกันอยู่แล้ว
ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะไปที่ไหนกัน
เพราะเมื่ออยู่กับคุณ ผมก็เหมือนได้อยู่บ้านแล้วล่ะ
ใช่ ผมได้กลับบ้านแล้ว





[Chorus: Johny Yukon]


Oh-oh-oh-oh-oh-oh-oh
Oh-oh-oh-oh-oh-oh-oh, oh, oh
Oh-oh-oh-oh-oh-oh-oh
When I'm with you I am home
Yeah, I am home


เพราะเมื่ออยู่กับคุณ ผมก็เหมือนได้อยู่บ้านแล้วล่ะ
ใช่ ผมได้กลับบ้านแล้ว





[Verse 2: gnash]


No matter where we go, we'll call it home
So no matter where we go, we're not alone
Why fix something if it isn't broke?
You call it holding on, I call it hope
I'm not tryna make my sister move or tryna change my momma's mood
So I got all this shit to do to make sure movin's not the move
'Cause lately I've been feeling all this pressure within
But one day we gon' all be back together again
So for now I'm on my grind, workin' all the time
Sending all these dollars, dimes to you
When I'm out there on the road, you can always hit my phone
So I'm always right there next to you
Now I'm missin' all these birthdays
Just to put my family in a good place
'Cause that's all that i wanted in the first place
'Cause I only do it for my family
So we good because...
When I get it all, I'mma give it all to you
And when I get it all, I'mma give it all to you
And know I did it all, yeah I did it all for you
When I'm with you I am home
Yeah, I am home

ไม่สำคัญว่าเราจะไปไหนเพราะเราจะเรียกมันว่าบ้าน
ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะไปไหนกันเพราะเราไม่เคยโดดเดี่ยว
ทำไมต้องรักษาถ้ามันไม่ได้ผุพัง?
พ่อเรียกมันว่าการต่อสู้ แต่ผมเรียกมันว่าความหวัง
ผมไม่ได้พยายามผลักน้องสาวให้ไปด้วยหรือเปลี่ยนอารมณ์ของแม่หรอกนะ
ที่ทำเพราะผมอยากมั่นใจว่านี่ไม่ใช่การเคลื่อนที่ที่ศูนย์เปล่า
ผมรับรู้ได้ถึงความกดดัน
แต่วันหนึ่งเราจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ตอนนี่ที่ผมทำได้ก็แค่ทำงานให้หนักขึ้น
และส่งเงินทั้งหมดให้พวกคุณ
เมื่อผมออกเดินทาง พ่อกับแม่โทรหาผมได้ตลอดเลยนะ
เพราะผมจะไปอยู่ข้างพ่อกับแม่เสมอ
ตอนนี้ผมคิดถึงวันเกิดแต่ละปีเหลือเกิน
แต่เพื่อให้ครอบครัวอยู่ในที่ดีๆ
เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมต้องการตั้งแต่แรก
เพราะผมทำเพื่อครอบครัวของผมเท่านั้น
ที่เรายังอยู่ดีก็เพราะ...
เมื่อผมได้มาผมก็ให้พวกคุณทั้งหมด
เมื่อผมมีทุกอย่างผมก็จะให้พวกคุณทั้งหมด
พวกคุณก็รู้ว่าที่ทำทั้งหมด ก็เพื่อพวกคุณทั้งนั้น
เมื่อผมอยู่กับพวกคุณ ก็เหมือนได้กลับบ้านแล้ว
ใช่ ผมได้กลับบ้านแล้ว





[Chorus: Johny Yukon]


Oh-oh-oh-oh-oh-oh-oh
Oh-oh-oh-oh-oh-oh-oh, oh, oh
Oh-oh-oh-oh-oh-oh-oh
When I'm with you I am home
Yeah, I am home


เพราะเมื่ออยู่กับคุณ ผมก็เหมือนได้อยู่บ้านแล้วล่ะ
ใช่ ผมได้กลับบ้านแล้ว




 

 

 

 

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[แปลเพลง] Gnash - I hate you, I love you

 
 
อยู่ๆก็ชอบเพลงนี้ขึ้นมาซะงั้น ฟังแบบบังเอิญมาก รู้สึกว่าเห้ยเพลงสไตล์เราแบบนี้ทำไมถึงได้ฟังช้านัก
แอบตกใจกับอายุ Gnash เบาๆ... ทำไมเด็กจัง  Me/ร้องไห้
แต่เดิมเพลงนี้ชื่อ Hate you, Love you ซึ่งถูกอัพลงใน Soundcloud ของ Olivia O'Brien
Gnash ได้ฟังเกิดถูกใจขึ้นมาเลยนำกลับมาโปรดิวซ์อีกครั้งในชื่อเพลง I hate you, I love you และก็ได้ Olivia มา Featuring ด้วย.
ปล.ท่อนของ Gnash อิงมาจากชีวิตรักจริงๆของคุณชายด้วยนะ อิอิ (ดูได้จากถอดความ)
 
 
 
 
 
[Verse 1: Olivia O'Brien]
 
Feeling used, but I'm still missing you
And I can't see the end of this
Just wanna feel your kiss against my lips
And now all this time is passing by
But I still can't seem to tell you why
It hurts me every time I see you
Realize how much I need you (1)
 
รู้สึกเหมือนโดนหลอกใช้ แต่ฉันยังคงคิดถึงคุณ
และฉันยังมองไม่เห็นจุดจบของเรื่องนี้เลย

แค่อยากรู้สึกถึงจูบของเธอที่สัมผัสลงมาบนปากฉัน

และตอนนี้เวลาเหล่านั้นมันผ่านไปแล้ว

แต่ฉันก็บอกเธอไม่ได้เลยว่าทำไม

มันเจ็บทุกครั้งที่ได้พบกัน

เชื่อได้เลยว่าฉันต้องการเธอมากขนาดไหน
 
 
 
[Hook: Olivia O'Brien]
 
I hate you, I love you
I hate that I love you
Don't want to, but I can't put
Nobody else above you (1)
I hate you, I love you (2)
I hate that I want you (3)
You want her, you need her
And I'll never be her (4)
 
ฉันเกลียดคุณ ฉันรักคุณ
ฉันเกลียดที่ต้องมารักคุณ

ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้แต่..

ก็ปล่อยให้ใครมาอยู่เหนือคุณไม่ได้เลย

ฉันเกลียดคุณ ฉันรักคุณ

ฉันเกลียดที่ต้องการคุณมากขนาดนี้

คุณอยากได้เธอ คุณต้องการเธอ

และฉันก็ไม่มีทางเป็นเธอคนนั้นได้เลย
 
 
[Verse 2: gnash]
 
I miss you when I can't sleep
Or right after coffee or right when I can't eat
I miss you in my front seat (5)
Still got sand in my sweaters
From nights we don't remember (6)
Do you miss me like I miss you?
Fucked around and got attached to  you
Friends can break your heart too
And I'm always tired but never of  you (7)
If I pulled a you on you, you wouldn't like that shit (8)
I put this reel out, but you wouldn't bite that shit (9)
I type a text, but then I never mind that shit (10)
I got these feelings, but you never mind that shit (9)
Oh oh, keep it on the low
You're still in love with me, but your friends don't know (11)
If you wanted me, you would just say so (12)
And if I were you, I would never let me go (13)
I don't mean no harm, I just miss you on my arm (14)
Wedding bells were just alarms (15)
Caution tape around my heart (16)
You ever wonder what we could have been?
You said you wouldn't and you fucking did
Lie to me, lie with me, get your fucking fix
Now all my drinks and all my feelings are all fucking mixed (17)
Always missing people that I shouldn't be missing
Sometimes you gotta burn some bridges just to create some distance (18)
I know that I control my thoughts and I should stop reminiscing
But I learned from my dad that it's good to have feelings (19)
When love and trust are gone (20)
I guess this is moving on (21)
Everyone I do right does me wrong
So every lonely night, I sing this song (22)
 
ผมคิดถึงคุณตอนที่นอนไม่หลับ
แม้แต่หลังดื่มกาแฟหรือแม้แต่ตอนที่กินไม่ลง

ผมคิดถึงคุณที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ

ทรายมันยังติดอยู่ในเสื้อผมอยู่เลย

จากคืนไหนสักคืนที่เราก็จำไม่ได้

คุณจะคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงคุณหรือเปล่า

ป่วนไปเรื่อยแล้วดันไปติดใจคุณ

เพื่อนก็หักอกคุณได้เหมือนกันนะ

ผมเบื่อนะแต่ก็ไม่เคยเบื่อคุณเลย

ถ้าผมรั้งคุณไว้ คุณต้องไม่ชอบแน่

ถึงผมจะล่อคุณด้วยเหยื่อ แต่คุณก็ไม่ติดมันอยู่ดี

ผมส่งข้อความไปหาคุณ แต่ก็ช่างแม่งเหอะ

ผมมีความรู้สึกให้คุณมากมาย แต่คุณก็ไม่เห็นจะสนใจห่าอะไรเลย

โอ้ ผมจะเก็บมันไว้เป็นความลับนะ

คุณยังรักผมอยู่แต่พวกเพื่อนคุณดันไม่รู้

ถ้าคุณต้องการผมก็พูดออกมาได้เลย

ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะไม่ปล่อยตัวผมไปแน่ๆ

ผมไม่ได้น่ากลัวนะ แค่คิดถึงคุณที่อยู่ในอ้อมกอดเท่านั้น

ระฆังแต่งงานเป็นแค่เสียงเตือน

ผมพันเทปเอาไว้รอบหัวใจแล้ว

เคยสงสัยบ้างมั้ยว่าเราจะไปกันได้ถึงไหน

คุณบอกจะไม่ทิ้งผมแต่ก็เสือกทำ

คุณแม่งโกหกผม ไม่ต้องทำห่าอะไรอีกแล้ว

เหล้ากับความรู้สึกผมตอนนี้มันผสมกันมั่วไปหมด

ผมคิดถึงคนที่ไม่ควรคิด

คุณควรจะทำลายสะพานนั้นเพื่อรักษาระยะห่างบ้างนะ

ผมรู้ว่าต้องควบคุมความคิดและเลิกคิดถึงอดีตได้แล้ว

แต่ผมก็ได้เรียนรู้จากพ่อว่าการมีความรู้สึกมันเป็นเรื่องที่ดี

เมื่อความรักและการเชื่อใจจากไป

ผมว่านั่นแหละคือการตัดใจ

ทุกคนที่ผมทำดีด้วยกลับทำเรื่องแย่ๆกลับมา

ทุกคืนที่เหงาผมก็เอาแต่ร้องเพลงนี้ตลอด
 
 
[Hook: Olivia O'Brien & gnash]
 
I hate you, I love you
I hate that I love you
Don't want to, but I can't put
Nobody else above  you
I hate you, I love you
I hate that I want  you (3)
You want her, you need her
And I'll never be her (4)
 
ฉันเกลียดคุณ ฉันรักคุณ
ฉันเกลียดที่ต้องมารักคุณ

ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้แต่..

ก็ปล่อยให้ใครมาอยู่เหนือคุณไม่ได้เลย

ฉันเกลียดคุณ ฉันรักคุณ

ฉันเกลียดที่ต้องการคุณมากขนาดนี้

คุณอยากได้เธอ คุณต้องการเธอ

และฉันก็ไม่มีทางเป็นเธอคนนั้นได้เลย
 
 
[Bridge: Olivia O'Brien and gnash]
 
All alone, I watch you watch her
Like she's the only girl you've ever seen
You don't care, you never did
You don't give a damn about me
Yeah, all alone, I watch you watch her
She is the only thing you've ever seen
How is it  you never notice
That  you are slowly killing me (4)
 
ฉันยืนโดดเดี่ยวมองคุณที่กำลังมองเธอ
เหมือนเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่คุณเห็น

คุณไม่เคยแคร์ ไม่เคยสนใจ

คุณไม่เคยคิดถึงใจฉันบ้างเลย

ใช่ ฉันยืนโดดเดี่ยวมองคุณกับเธออยู่

เธอคือคนเดียวที่คุณมองเห็น

ทำไมคุณไม่เคยสังเกตุบ้าง

คุณกำลังฆ่าฉันให้ตายทั้งเป็น
 
 
[Hook: Olivia O'Brien]
 
I hate you, I love you
I hate that I love you
Don't want to, but I can't put
Nobody else above you (23)
I hate you, I love you
I hate that I want  you (3)
You want her, you need her
And I'll never be her (4)
 
ฉันเกลียดคุณ ฉันรักคุณ
ฉันเกลียดที่ต้องมารักคุณ

ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้แต่..

ก็ปล่อยให้ใครมาอยู่เหนือคุณไม่ได้เลย

ฉันเกลียดคุณ ฉันรักคุณ

ฉันเกลียดที่ต้องการคุณมากขนาดนี้

คุณอยากได้เธอ คุณต้องการเธอ

และฉันก็ไม่มีทางเป็นเธอคนนั้นได้เลย
 
 

 
อธิบายโดย Gnash และ Olivia
 

(1) Gnash : Olivia ใช้ความรู้สึกของคนและความสัมพันธ์มาเป็นสื่อ แต่ก็พลาลและก็คิดเรื่องนั้นตลอดเวลาจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด จุดนี้คือหัวใจของเพลงเลย ความรู้สึกทั้งเศร้าทั้งดีใจที่รู้ว่าตัวเองพลาดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ แต่ ณ เวลาหนึ่งคุณก็จะยอมรับได้ เวลาอาจจะไม่ทำให้คุณหายขาดแต่มันจะดีขึ้น
(2) Gnash : Olivia กำลังติดอยู่กับอดีต แฟนเก่าของเธอจากไปแล้ว แต่เธอยังติดอยู่ในอารมณ์ตอนที่เพิ่งจะเลิกกันใหม่ๆ เธอยังไม่แข็งแรงพอที่จะบอกแฟนเก่าว่าตอนนี้เธอรู้สึกยังไงบ้าง การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์นี้ถูกพูดถึงในเพลง ป๊อปคลาสสิคของ Chicago ที่ชื่อว่า Look away.
" If we meet on the streets someday
And I don’t know what to say
Look away, baby, look away
Don’t look at me
I don’t want you to see me this way
 
ถ้าวันไหนเกิดเราเจอกันบนถนน
แล้วไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
แค่มองผ่านไป ที่รัก คุณแค่มองผ่านไป
อย่ามองมาทางฉัน
ฉันไม่ต้องการให้คุณเห็นฉันในสภาพนี้"
 
(3) Gnash&Olivia : ตอนนี้สมองกับหัวใจของเธอกำลังต่อสู้กัน เธอรู้ว่าตอนนี้ต้องไปแล้วแต่หัวใจของเธอกลับไม่เห็นด้วย Selena Gomez ได้เขียนความหมายนี้ลงในเพลง "The heart wants what it wants"
"Save your advice cause I won’t hear
You might be right, but I don’t care
There’s a million reasons
Why I should give you up
But the heart wants what it wants
 
เก็บคำแนะนำของคุณไปเถอะเพราะฉันไม่อยากฟัง
คุณอาจจะถูกแต่ฉันไม่แแคร์
มีเป็นล้านเหตุผล
ทำไมฉันต้องตัดใจจากเธอด้วย
 
แต่หัวใจมันต้องการในสิ่งที่ต้องการเท่านั้น"
 

(4) Gnash : Olivia บอกว่าเธอรู้ว่าคนที่กำลังร้องเพลงถึงเนี่ยเป็นใคร ตัวเธอไม่เป็นอะไรหรอกแต่หัวใจเนี่ยสิ...
(5) Gnash&Olivia : พวกเราต่างก็มีชีวิตประจำวันในตอนเช้าอย่างเช่น ตื่นนอน ดื่มกาแฟ กินข้าวเช้า ขับรถไปทำงาน และเวลาเหล่านี้แหละที่เขากำลังคิดถึงความรักที่หายไปแล้ว
(6) Gnash&Olivia : บางทีอาจจะเคยเมากันสุดเหวี่ยงบนชายหาด เขาคงจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หลักฐานก็ยังคงอยู่ ณ ตรงนั้น
(7) Gnash : ประโยคนี้หมายถึง "เพื่อนกิน" สถานการณ์ระหว่างคนสองคนกำลังแย่หนัก เขามีความรู้สึกกับเธอมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนไดนามิก บรรทัดสุดท้ายเป็นคีย์ที่บอกในท่อนเริ่มแรกว่าทำไมเขาถึงนอนไม่หลับ นั่นเป็นเพราะกำลังคิดถึงเธอ
(8) Gnash&Olivia : เขาต้องการให้เธอมองในมุมมองของเขาบ้าง ผู้หญิงต้องการให้เขาอยู่ในชีวิตของเธอไปนานๆแต่ไม่ใช่ในสถานะแฟนอีกแล้ว

เขาโกรธมากเพราะว่าเขาต้องการเธอในแบบนั้น (ผมต้องการคุณมาเป็นผู้หญิงของผมแต่ผมบอกใครไม่ได้) ถ้าเกิดว่าเขาพูดขึ้นมาเธอจะอารมณ์เสียมาก แต่เธอก็แอบคิดว่าถ้าเขามาอยู่ในสถานะนี้กัน (อารมณ์แบบหมาหยอกไก่)
(9) Gnash&Olivia : เขาทำทุกอย่างที่จะรั้งเธอเอาไว้ได้ เขาทำให้เธอรู้ว่าเขาต้องการเธอมากแค่ไหนแต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ในบรรทัดนี้มีการเล่นคำอยู่นิดหน่อย เหยื่อในที่นี้หมายถึงความจริงใจที่เขามีต่อเธอ
(10) Gnash : ผมพิมพ์ในสิ่งที่ผมอยากจะบอก แต่ก็ทำได้แค่ส่งคำว่า "nvm" ไปเท่านั้น เพราะผมรู้ว่าข้อความไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นแถมยังรู้สึกแย่มาก   ๆที่ไม่มีข้อความอะไรตอบกลับมาเลย


(11) Gnash : ความสามารถของคนๆหนึ่งคือรู้แน่นอนว่ากำลังรักใครสักคน แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างมันจบลง ทุกคนก็ต้องเอาไประบายกับเพื่อนทั้งนั้น และมักเล่าในมุมมองที่เข้าข้างตัวเองเสมอ เหตุผลของคุณคือการเดินหนีจากบางสิ่ง แต่พอมาเล่าอีกทีเพื่อนก็ต้องจับได้ว่าคุณไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด
(12) Gnash : ถ้าเธอต้องการผม เธอก็ต้องหยุดใส่ร้ายผมได้แล้ว หยุดทดสอบผม ก็แค่พูดออกมามันจะไปยากอะไร ทุกคนก็รู้ว่าทำยังไงมันถึงจะดีแต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะทำให้มันออกมาดีได้อย่างที่คิดหรือเปล่า
(13) Gnash : ถ้าเรื่องมันกลับกัน และผมมองตัวเองผ่านดวงตาของเธอ ทุกอย่างที่เราเคยผ่านด้วยกันมา ผมก็คงไม่ปล่อยให้ตัวเองจากไปหรอก (เหมือนกับที่ผมไม่เคยอยากให้เธอไป)(14) Gnash : ผมไม่ได้อยากให้เธอเจ็บปวด หรือไม่สบายใจถ้าได้ฟังเพลงนี้ ผมแค่อยากบอกเธอคนนั้นว่า ผมคิดถึงเธอแค่นั้นเอง
(15) Gnash : ผมแค่รู้สึกว่าเสียงระฆังในงานแต่งมันดีมากจริงๆ มันดังไปมาในหัวตลอด แต่ก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกา ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลย....

(16) Gnash&Olivia : หลังจากที่ใส่หัวใจลงไปเต็มที่ในความรักครั้งนี้แต่มันกลับพัง Gnash ก็เลยปิดตายหัวใจเพื่อป้องกันตัวเอง หมายถึงว่าเขาจะระวังเรื่องชีวิตรักครั้งต่อไปให้มากขึ้น
(17) Gnash&Olivia : ความรู้สึกของ Gnash มันผสมกันมั่วไปหมด อารมณ์เดียวกับท่อนฮุคของ Olivia การต่อสู้ครั้งนี้จบลงด้วยการดื่มเพื่อหนีความรู้สึกทั้งหมดที่ทำให้เกิดความสับสนขึ้นมาในใจ
(18) Gnash&Olivia : Burning bridges (เผาสะพาน) เป็นวลีที่พบบ่อยเพราะวลีนี้เป็นตัวแทนของการตัดความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองคนได้ดีเลย


 Your Tango ได้แนะนำความสัมพันธ์ "No Contact Rule"
No Contact Rule คือการตัดความสัมพันธ์แบบเด็ดขาด เมื่อคุณไม่ได้คุย ไม่ได้พิมพ์ ไม่ได้คิดถึงอดีต ก็จะจบความสัมพันธ์นั้นได้อย่างง่ายดาย
(19) Gnash&Olivia : พ่อของเขาเป็นแบบอย่างที่ดีเมื่อพูดถึงเรื่องการแสดงความรู้สึก แต่ความพอดีที่ Gnash กำลังจะหาก็คือการต่อสู้ของสมองกับหัวใจ

(20) Gnash : ความรักและการเชื่อใจ คือเสาหลักของความสัมพันธ์ที่ดี เมื่อไม่มีทั้งสองสิ่งนี้แล้วก็คงถึงเวลาที่จะต้องยุติความสัมพันธ์ที่มีทุกอย่างลง
(21) Gnash : ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่ามันจากไป ถึงแม้เราจะเลิกกันก็ตาม เพราะประตูนั้นมันไม่เคยปิดลงเลยจริงๆ เพราะผมตัดสินมันจากความรู้สึกจริงๆ แล้วมันยังอ้างถึงประโยคที่ว่า
"I guess this is growing up" ใน dammit โดย Blink 182.
(22) Gnash : ผมทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีแล้วแต่ทุกคนกลับไม่เห็นด้วย ก็เลยเหลือผมแค่คนเดียวที่ต้องมาร้องเพลงนี้ใน  marvin’s room ทั้งคืนจนกว่าตัวผมจะหลับไป
(23) Gnash&Olivia : นี่คือส่วนที่ยากที่สุด คือแบบว่า "ทำไมเธอได้แล้วฉันไม่ได้" นี่คือประโยคที่ผุดขึ้นมาในหัวของ Olivia เธอก็รู้ว่าแฟนเก่ากับผู้หญิงคนนั้นกำลังรักกันและดูท่าว่าจะเป็นไปได้ดีกว่าตอนอยู่กับเธอด้วย "ความรัก" กำลังบอกให้เธอปล่อยเขาไป... แต่ว่ามันก็เจ็บมากเหลือเกิน